วันศุกร์ที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2552

เเนะนำตัว

ชื่อนางสาวศศิธร ขันธวัต ชื่อเล่น ปุ๋ย

อยู๋โรงเรียนอาเวมารีอา

ม5/3 เลขที่18 ชอบเรียนวิชาคอมพิวเตอร์

ครูผู้สอน คุณครูวีระชน ไพรสาทย์

วันพฤหัสบดีที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2552

ผลไม้

วันหากร่างกายไม่ได้รับกากใยอาหารอย่างเพียงพอจะเกิดปัญหากับระบบขับถ่าย ท้องผูก และเกิดมะเร็งลำไส้ใหญ่ได้ ในผักและผลไม้มีกากใยอาหารหรือไฟเบอร์สูง แบ่งออกเป็นชนิดละลายน้ำกับชนิดที่ไม่ละลายน้ำ ชนิดที่ละลายน้ำได้จะช่วยลดคอเลสเทอรอลได้อีกด้วย พบใน คะน้า บล็อกโคลี่ กระเจี๊ยบ ถั่วลันเตาทั้งฝัก ถั่วเหลือง ถั่วแดง ส้ม ลูกพรุน แคนตาลูป แอ๊ปเปิ้ลและสตรอว์เบอร์รี่ ส่วนชนิดไม่ละลายน้ำพบมากในผักผลไม้ทั่วไป
กินผักผลไม้ต่างสี วันละเท่าไรถึงจะพอ
วิธีกินผักที่ถูกต้องคือ ควรเลือกกินผักอย่างน้อยวันละ 3 ชนิด เป็นผักที่มีสีเขียวจัด 2 ชนิด ชนิดละประมาณ 1/2 ถ้วยตวง เช่น คะน้า บล็อกโคลี่ ผักโขม ผักบุ้ง ตำลึง กระเจี๊ยบเขียว เนื่องจากผักสีเขียวจัดมีสารจำพวกโฟเลท ช่วยป้องกันโรคหัวใจ สมองเสื่อม และยังป้องกันความผิดปกติในระบบประสาทของทารกในครรภ์ ส่วนผักอีกชนิดที่เหลือให้เลือกสีอื่นตามชอบ สำหรับผลไม้แนะนำให้กินผลไม้ที่มีแบต้าแคโรทีน หรือแคโรทีนอยด์สูง คือ พวกที่มีสีส้มจัดหรือเหลืองจัดวันละหนึ่งชนิด พวกที่มีวิตามินซีสูง เช่น ส้ม ฝรั่ง มะละกอสุก สับปะรด หนึ่งชนิด และอีกหนึ่งชนิดตามชอบ ในปริมาณอย่างละ 1 ถ้วยตวงต่อวัน กินสด ต้ม ผัด...วิธีใดดีกว่ากัน
ความร้อนและระยะเวลาในการปรุงอาหารทำให้วิตามินบางชนิด เช่น วิตามินซีและบี สลายไป ส่วนวิตามินอื่นๆ ที่ทนต่อความร้อนได้ก็จะมีปริมาณลดลง เช่น วิตามินที่ละลายในไขมัน คือ วิตามินเอ ดี อี เค และเบต้าแคโรทีน รวมทั้งแร่ธาตุ แต่มีผักผลไม้บางชนิดที่แนะนำให้ปรุงก่อนรับประทาน เพื่อให้ร่างกายดูดซึมสารที่มีประโยชน์ไปใช้ได้มากขึ้น ลองดูตัวอย่างดังนี้ค่ะการกินมะเขือเทศสดๆ ให้วิตามินซีสูง แต่เมื่อนำไปปรุงโดยเติมน้ำมันเล็กน้อย จะช่วยให้ผนังเซลล์ของมะเขือเทศปล่อยสารไลโคพีนซึ่งมีฤทธิ์ป้องกันมะเร็งต่อมลูกหมากและโรคหัวใจ
บล็อกโคลี่สดให้วิตามินซีสูง เมื่อผ่านความร้อนวิตามินซีและบีจะลดลงมาก แต่วิตามินและแร่ธาตุอื่นๆ ยังคงอยู่ การกินแครอทปรุงสุกด้วยน้ำมัน จะช่วยให้ร่างกายดูดซึม “เบต้าแคโรทีน” ได้ดี
ผลไม้ที่กินได้ทั้งเปลือก ควรกินเปลือกด้วยเพราะมีสารที่เป็นประโยชน์อยู่ที่เปลือก เช่น แอ๊ปเปิ้ลแดงมีสารฟลาโวนอยด์ช่วยต้านมะเร็ง ส่วนเนื้อจะมีใยอาหารชนิดละลายในน้ำและวิตามินซี
ผักผลไม้แหล่งรวมสารพิษ ผักผลไม้มีประโยชน์แต่ก็อาจทำให้เกิดโทษได้ เพราะปัจจุบันมีการเก็บเกี่ยวพืชผักก่อนเวลาสลายตัวของยาฆ่าแมลงทำให้ร่างกายสะสมสารตกค้างเหล่านี้ไว้ โดยเฉพาะคนที่กินผักหรือผลไม้ซ้ำๆ กัน จะได้รับสารเคมีตัวเดิมเพิ่มปริมาณมากขึ้นเรื่อย รวมทั้งเชื้อโรคและพยาธิชนิดต่างๆ วิธีที่ดีที่สุดคือการรับประทานผักและผลไม้ให้หลากหลาย ควบคู่ไปกับเทคนิกการล้างผักผลไม้คู่ครัว ซึ่งมีอยู่ด้วยกันหลายวิธีให้เลือกใช้ได้ตามสะดวกล้างแบบน้ำไหล ล้างผักในตระแกรงให้น้ำไหลผ่าน หรือคลี่ผักเป็นใบๆ แล้วเปิดน้ำไหลสัก 2-3 นาที จะช่วยชะสารตกค้างในผักผลไม้ได้ดี ผสมเบกกิ้งโซดา 1 ช้อนชา กับน้ำอุ่น 6-7 ลิตร แช่ผักประมาณ 10-15 นาที เบกกิ้งโซดาจะทำปฏิกิริยาทำให้ยาฆ่าแมลงละลายไปกับน้ำ หลังจากนั้นล้างด้วยน้ำสะอาดอีก 2 ครั้ง เพื่อป้องกันไม่ให้ผักเปลี่ยนสี จากเขียวสดเป็นสีเขียวแก่เวลาปรุง วิธีนี้ช่วยลดสารพิษตกค้างได้ประมาณ 80 เปอร์เซ็นต์ ผสมกลือ 2 ช้อนโต๊ะกับน้ำ 4 ลิตร หรือผสมน้ำส้มสายชู 1/2 ถ้วยตวงกับน้ำ 5 ลิตร แช่ผักทิ้งไว้ 15 นาที ล้างด้วยน้ำสะอาดก่อนนำไปปรุง ใช้น้ำยาล้างผักและผลไม้ หรือละลายด่างทับทิม 4-5 เกล็ด กับน้ำ 5 ลิตร ให้พอเป็นสีชมพูอ่อนๆ แช่ผักและผลไม้ทิ้งไว้ช่วยฆ่าเชื้อโรคได้ ผลไม้ที่กินทั้งเปลือก เช่น แอ๊ปเปิ้ล ฝรั่ง ควรใช้ฟองน้ำหรือใยบวบล้างและถูเบาๆ ส่วนผลไม้ที่เราไม่ได้รับประทานทั้งเปลือก เช่น ส้ม แตงโม แคนตาลูป ก็ควรล้างเปลือกให้สะอาดก่อน เพราะอาจมีเชื้อแบคทีเรียหรือเชื้อโรคติดอยู่ที่ผิวซึ่งจะติดมือหรือมีดแล้วปนเปื้อนไปกับเนื้อผลไม้

นิทาน

ไอ้กะทิ หนุ่มน้อยแห่งดงมะพร้าวเตี้ย แอบมีความรักกับ หนูแป้ง สาวสวยประจำหมู่บ้านซึ่งเป็นลูกสาวคนเดียวของผู้ใหญ่บ้าน ทั้งคู่เจอกันวันลอยกระทง และสัญญากันต่อหน้าพระจันทร์ ไม่ว่าข้างหน้าแม้จะมีอุปสรรคขวางกั้นเพียงใด ทั้งคู่ก็จะขอยึดมั่นความรักแท้ที่มีต่อกันชั่วฟ้าดินสลาย
ไอ้กะทิ ก้มหน้าก้มตาเก็บหอมรอมริบหาเงินเพื่อมาสู่ขอลูกสาวจากผู้ใหญ่บ้าน แต่กลับถูกปฏิเสธแถมยังโดนผู้ใหญ่ส่งชายฉกรรจ์พร้อมอาวุธครบมือมาลอบทำร้าย แต่ไอ้กะทิก็ไม่ว่ากระไร มันพาร่างอันสะบักสะบอมกลับไปบ้าน นอนหยอดน้ำข้าวต้มซะหลายวัน แต่ใจยังตั้งมั่นว่า วันหน้าจะมาสู่ขอหนูแป้งใหม่จนกว่าผู้ใหญ่จะใจอ่อน
แต่แล้วความฝันของไอ้กะทิ ก็พังพินาศเมื่อผู้ใหญ่ยก หนูแป้ง ลูกสาวคนสวยให้แต่งงานกับปลัดหนุ่มจากบางกอก ไอ้กะทิ รู้ข่าวจึงรีบกระเสือกกระสนหมายจะมายับยั้งการแต่งงานครั้งนี้ ซึ่งผู้ใหญ่บ้านก็วางแผนป้องกันไว้แล้ว โดยขุดหลุมพรางดักรอไว้ แต่แม่แป้งแอบได้ยินแผนร้ายเสียก่อน จึงลอบหนีออกมาหมายจะห้ามหนุ่มคนรักไม่ให้ตกหลุมพราง
คืนนั้นเป็นคืนเดือนแรม หนูแป้งวิ่งฝ่าความมืดออกมาเพื่อดักหน้าไอ้กะทิ ไอ้กะทิเห็นหนูแป้งวิ่งมาก็ดีใจทั้งคู่รีบวิ่งเข้าหากัน ฉับพลัน!!...ร่างของหนูแป้งก็ร่วงหล่นลงไปในหลุมพรางของผู้ใหญ่ฯผู้เป็นพ่อ ต่อหน้าต่อตาไอ้กะทิ อารามตกใจนายกะทิก็รีบกระโดดตามลงไปเพื่อช่วยเหลือหนูแป้ง อารามดีใจสมุนชายฉกรรจ์ของผู้ใหญ่บ้านซึ่งแอบซุ่มอยู่ ก็รีบเข้ามาโกยดินฝังกลบหลุมที่ทั้งคู่หล่นลงไป เพราะคิดว่าในหลุมมีเพียงไอ้กะทิผู้เดียว ...
รุ่งเช้าผู้ใหญ่บ้านสั่งให้ขุดหลุมเพื่อดูผลงาน แทบไม่เชื่อสายตาเบื้องล่างปรากฏร่างของ ไอ้กะทิตระกองกอดทับร่างหนูแป้งลูกสาวของตน ทั้งสองนอนตายคู่กันอย่างมีความสุข เมื่อรอยยิ้มถูกเปลี่ยนเป็นน้ำตา ผู้ใหญ่บ้านรำพึงต่อหน้าศพของลูกสาวว่า..
"พ่อไม่น่าคิดทำลายความรักของลูกเลย"
ตั้งแต่นั้นมาอนุสรณ์แห่งความรักที่กระทำสืบทอดกันมาจนเป็นประเพณี ทุกแรม ๖ ค่ำ เดือน ๖ ชาวบ้านที่ศรัทธาในความรักของไอ้กะทิ กับ แม่แป้ง ก็จะตื่นตั้งแต่เช้ามืด เข้าครัวเพื่อทำขนมที่หอมหวานปรุงจากแป้ง และกะทิ บรรจงหยอดลงหลุม พอสุกได้ที่ก็แคะจากหลุม แล้วนำมาวางคว่ำหน้าซ้อนกันเป็นสัญลักษณ์ว่า "จะได้อยู่ร่วมกันตลอดไป" ขนมนี้จึงถูกเรียกขานกันในนาม "ขนมแห่งความรัก" หรือ ขนม คน-รัก-กัน ต่อมาถูกเรียกย่อ ๆ ว่า 'ขนม ค-ร-ก' นั่นเอง

วันพืชมงคล

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวโปรดเกล้าฯให้สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ เสด็จฯแทนพระองค์ ปฏิบัติพระราชกรณียกิจในพระราชพิธีพืชมงคลจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ “จรัลธาดา กรรณสูต” ทำหน้าที่พระยาแรกนา พระโคแรกนาได้แก่ “ฟ้า-ใส” ปีนี้พระโคกินงาทายว่าผลาหาร ภักษาหาร จะอุดมสมบูรณ์ดี และพระโคกินหญ้าทายว่า น้ำท่าจะบริบูรณ์พอควร
เมื่อเวลา 08.30 น.วันที่ 11 พฤษภาคม พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จพระราชดำเนินไปทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจแทนพระองค์ ในงานพระราชพิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ ณ พลับพลาท้องสนามหลวง ระหว่างเวลาพระฤกษ์ 8 นาฬิกา 09 นาที ถึงเวลา 8 นาฬิกา 49 นาที
นายจรัลธาดา กรรณสูต ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งทำหน้าที่พระยาแรกนา ได้ยาตราพร้อมด้วยเทพีคู่หาบทอง ได้แก่ น.ส.สุภกัญญา กาญจนะคูหะ เศรษฐกรชำนาญการ ศูนย์ประเมินผล สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร น.ส.รำพึง ปราบหงส์ เจ้าพนักงานพัสดุชำนาญงาน กองพัสดุ กรมชลประทาน และเทพีคู่หาบเงิน ได้แก่ น.ส.สุนี รู้สุกิจกุล เจ้าพนักงานการเงินและบัญชีชำนาญงาน สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม น.ส.ณุทนาถ โคตรพรหม นักวิทยาศาสตร์ปฏิบัติงาน กรมปศุสัตว์
ออกจากโรงพิธีพราหมณ์ มีราชบัณฑิตและพราหมณ์นำผ่านพลับพลาหน้าพระที่นั่ง พระยาแรกนาเข้าเฝ้าทูลละอองพระบาทถวายบังคมแล้วไปยังลานแรกนา เจ้าพนักงานจูงพระโคเทียมแอก อันได้แก่พระโคฟ้า และพระโคใส พระยาแรกนาเจิม พระโคและไถ แล้วจึงไถดะไปโดยรี 3 รอบ โดยขวาง 3 รอบ หว่านธัญพืช โหรลั่นฆ้องชัย แล้วไถกลบอีก 3 รอบ เพื่อกลบเมล็ดธัญพืชลงในดินเสร็จแล้ว
เจ้าพนักงานปลดพระโคออกจากแอก พระยาแรกนาและ เทพีกลับไปยังโรงพิธีพราหมณ์ พราหมณ์เสี่ยงของกิน 7 สิ่ง ตั้งเลี้ยงพระโค โดยนายยุคล ลิ้มแหลมทอง อธิบดีกรมปศุสัตว์ กราบบังคมทูลผลการเสี่ยงทายของพระยาแรกนา โดยโหรหลวงพยากรณ์ว่า พระยาแรกนาเสี่ยงทายผ้านุ่งประกอบพิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ ดังนี้
เสี่ยงผ้านุ่งปีนี้ พยากรณ์ว่า น้ำสำหรับปีนี้จะมีปริมาณพอดี ข้าวกล้าในนาจะได้ผลบริบูรณ์ ผลาหาร มังสาหาร จะอุดมสมบูรณ์ดี และการเสี่ยงทายพระโคกินเลี้ยง ปีนี้พระโคกินงา พยากรณ์ว่า ผลาหาร ภักษาหาร จะอุดมสมบูรณ์ดี กินหญ้า พยากรณ์ว่า น้ำท่าจะบริบูรณ์พอควร พร้อมด้วยธัญญาหาร ผลาหาร ภักษาหาร มังสาหาร อุดมสมบูรณ์ดี เสร็จแล้วสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จพระราชดำเนินกลับ

ลดความอ้วน

สูตรลดความอ้วน สูตรที่ 1
สูตรนี้ถ้าปฏิบัติอย่างเคร่งครัด และไม่โกงตัวเอง รับรองว่าจะลดน้ำหนักได้สัปดาห์ละ 5 กิโลกรัมโดย 3 วันแรกลดได้ถึง 3 กิโลกรัม ข้อห้าม งดเหล้า ไวน์ น้ำหวาน น้ำอัดลมทุกชนิด ชา กาแฟ ได้นิดหน่อย แต่ห้ามใส่น้ำตาลห้ามรับประทานถั่ว ,ข้าวโพด ทุกชนิดเริ่มวันแรก รับประทานผลไม้ทุกมื้อ โดยเฉพาะ แตงทุกชนิด เพราะมีแคลอรีต่ำ (ยกเว้นแตงกวา) ไม่มีแป้ง น้ำตาล (ส่วนอย่างอื่นงดหมด)วันที่สอง จะเป็นผักทุกชนิด เช่น สลัดผัก มันฝรั่งนึ่งหรือเผา 1 หัว ใส่เนยก้อนเล็กๆเกลือ พริกไทย ซอสมะเขือเทศเพิ่มรสชาติ หรือจะดัดแปลงเป็นอาหารไทย เช่น เห็ดผัดกับน้ำพริกแกง,น้ำพริกเผา ช่วยให้ไม่เบื่ออาหาร (ที่สำคัญอย่างอื่นต้องงดเช่นเดียวกัน)วันที่สาม ผักและผลไม้ ผสมกันรับประทานได้ทั้งวันวันที่สี่ กล้วยหอม 3 ใบ แบ่งรับประทานมื้อละ 1 ใบ ตามด้วยนมพร่องไขมัน มื้อละ 1 แก้ววันที่ห้า สามารถทานเนื้อสัตว์ได้ 10-20 กรัม (ประมาณชิ้นหรือสองชิ้นเล็กๆนั่นแหละ) ทานกับมะเขือเทศ 6 ลูก โดยน้ำไปอบ หรือย่าง แล้วลอกเปลือกออก แบ่งรับประทานเป็น 2-3 มื้อก็จะดีวันที่หก รับประทานได้ทั้งเนื้อปลา ไก่ เนื้อ ทั้ง 3 มื้อ แค่พออิ่ม โดยรับประทานกับสลัดผักวันที่เจ็ด วันสุดท้ายแล้ว ให้เป็นข้าวซ้อมมือ กับผัก (ไม่มีเนื้อสัตว์) แนะนำให้นำข้าวไปคลุก น้ำปลา หรือผัดกับน้ำพริกเผา ผัดร้อนๆ โดยใส่ผักลงไปด้วยก็ได้ โดยไม่มีเนื้อสัตว์
เมื่อครบ 7 วัน ก็หมุน เมนูไปรับประทานเหมือนวันแรก ทำเช่นนี้เป็นประจำทุกสัปดาห์ หรือจะเสริมด้วยซุปที่รับประทานได้ทุกวัน (ยกเว้นวันแรก)ซุปสูตรลดความอ้วนประกอบด้วย เซลอรี 1 ต้น กะหล่ำปลี หอมหัวใหญ่ 6 หัวพริกยักษ์ 1 เม็ด มะเขือเทศ 4 ลูก หั่นใส่รวมกัน ใส่น้ำพอท่วมผัก เติมพริกไทย เกลือ ซอสพริก เพื่อเพิ่มรสชาติ ต้มจนเปื่อย
สูตรลดความอ้วน สูตรที่ 2สูตรนี้เอามาจากโต๊ะจตุจักร คร้าบบบบวันที่ 1เช้า กาแฟ หรือ ชา ไม่ใส่น้ำตาลและครีมเทียม 1 ถ้วยขนมปังปิ้ง 1 แผ่น (โฮลวีทได้ก็จะดีมาก)ถั่ว baked bean 120 กรัม (ถั่วในซอสมะเขือเทศ)ส้ม 1 ลูกกลางวัน กาแฟ หรือชา 1 ถ้วยขนมปังปิ้ง 1 แผ่นปลาทูน่า 120 กรัมเย็น ถั่วฝักยาวต้ม 120 กรัมบีทรูท หรือ แครอท ต้ม 120 กรัมแฮมไก่ 2 แผ่น (หมูไม่ได้)ไอศกรีม วานิลา 1 ถ้วยเล็กวันที่ 2เช้า กาแฟหรือ ชา 1 ถ้วยขนมปังปิ้ง 1 แผ่นไข่ต้ม 1 ฟองกล้วยหอม 1/2 ผลกลางวัน แครกเกอร์แบบเค็ม 5 แผ่นชีส low fat 1 แผ่น (อาจเปลี่ยนเป็น โยเกิร์ตรสธรรมชาต)เย็น บล๊อคโครี่ กับแครอท ต้ม อย่างละ 120 กรัมแฮมไก่ 2 แผ่นกล้วยหอม 1/2 ผลไอศกรีม วานิลา 1 ถ้วยเล็กวันที่ 3เช้า กาแฟหรือ ชา 1 ถ้วยแครกเกอร์ เค็ม 5 แผ่นชีส low fat 1 แผ่นแอ๊ปเปิ้ล 1 ผลกลางวัน กาแฟหรือชา 1 ถ้วยขนมปังปิ้ง 1 แผ่นไข่ต้ม 1 ลูกเย็น ดอกกะหล่ำต้ม กับ แครอท อย่างละ 120 กรัมทูน่า 120 กรัมแตงไทย หรือ แคนตาลูป 1 ชิ้น

ไข้หวัดไหญ่2009

ก่อนที่ไข้หวัดหมูดั้งเดิมจะกลายพันธุ์เป็นไข้หวัดใหญ่ สายพันธุ์ใหม่ 2009 นั้น ไข้หวัดหมูสายพันธุ์ดั้งเดิม พบมาตั้งแต่ ค. ศ.1918-1919 ในช่วงที่ไข้หวัดใหญ่สเปน (Spanish Flu) ระบาดครั้งใหญ่ทั่วโลก จนมีผู้เสียชีวิตประมาณ 50 ล้านคน ส่วนใหญ่อายุ 20-40 ปี และตั้งแต่ 65 ปีขึ้นไป จากนั้นโรคไข้หวัดหมูได้แพร่ระบาดในช่วงต่างๆ ก่อให้เกิดโรคในคนอยู่มากกว่า 50 ราย โดยผู้ป่วย 61% มีประวัติสัมผัสหมู และมีอายุเฉลี่ย 24 ปี หลังจากนั้นใน ค.ศ.1974 ไข้หวัดหมูได้แพร่ระบาดในค่ายทหาร (Fort Dix) ที่รัฐนิวเจอร์ซี่ มีผู้ป่วย 13 ราย เสียชีวิต 1 ราย โดยที่อีก 230 ราย ติดเชื้อแต่ไม่มีอาการ หรือมีอาการแต่น้อยมาก ทั้งหมดนี้ไม่มีประวัติสัมผัสหมู ซึ่งแสดงว่าน่าจะมีการพัฒนาจนมีการติดต่อจากคนสู่คน ต่อมาใน ค.ศ.1988 หญิงตั้งครรภ์คนหนึ่งเสียชีวิตในรัฐวิสคอนซิน และมีประวัติสัมผัสหมู จึงเกิดการสงสัยว่าไข้หวัดหมูอาจไม่ใช่พันธุ์หมูล้วน (classic H1N1) จนกระทั่งปี ค.ศ.1998 จึงพิสูจน์พบว่า หมูที่เลี้ยงในประเทศสหรัฐอเมริกา มีไวรัสไข้หวัดหมูกลายพันธุ์ โดยมีพันธุกรรมผสมระหว่างหมู คน และนก เกิดสายพันธุ์ผสม (Triple assortant virus) H3N2, H1N2, และ H1N1 (วารสารโรคติดเชื้อ JID 2008) และสายพันธุ์ผสมนี้ยังพบได้ในเอเชีย และแคนาดา

ผาเเต้ม

อุทยานแห่งชาติผาแต้ม เป็นหน่วยงานสังกัดส่วนภูมิภาค สังกัดสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 9 (อุบลราชธานี) กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม ในอดีตชาวบ้านท้องถิ่นทำกินในบริเวณใกล้เคียงพื้นที่ป่าภูผา น้อยคนนักที่จะเดินทางเข้าไปในป่าแห่งนี้ เนื่องจากมีความเชื่อว่า “ผาแต้มเป็นเขตต้องห้าม ภูผาเหล่านั้นมีความศักดิ์สิทธิ์นักเป็นภูผาแห่งความตาย ใครล่วงล้ำเข้าไปมักมีอันเป็นไปอาจเจ็บไข้ หรือเป็นอันตรายถึงชีวิต ” ปัจจุบัน พื้นที่ป่าภูผาแต้ม ได้ถูกเปิดเผยจนเป็นที่รู้จักกันทั่วไป เมื่อคณะอาจารย์และนักศึกษาจากภาควิชามนุษยวิทยา มหาวิทยาลัยศิลปากร ได้มาทำการสำรวจค้นพบภาพเขียนสีโบราณสมัยก่อนประวัติศาสตร์ที่ผาแต้ม ท้องที่บ้านกุ่ม ตำบลห้วยไผ่ อำเภอโขงเจียม จังหวัดอุบลราชธานี ประกอบกับสภาพป่าในบริเวณใกล้เคียงยังอุดมสมบูรณ์อยู่ จึงได้ทำหนังสือบันทึกจากภาควิชาฯ ลงวันที่ 26 พฤษภาคม 2524 เสนอต่อกองอุทยานแห่งชาติ กรมป่าไม้ ขอให้จัดตั้งป่าภูผาในบริเวณผาแต้มเป็นอุทยานแห่งชาติ กองอุทยานแห่งชาติได้บันทึกสั่งการ ลงวันที่ 27 พฤษภาคม 2524 ให้ นายเสงี่ยม จันทร์แจ่ม นักวิชการป่าไม้ 4 ปฏิบัติหน้าที่หัวหน้า อุทยานแห่งชาติดงหินกอง (ต่อมาได้เปลี่ยนชื่อเป็นอุทยานแห่งชาติแก่งตะนะ) ไปทำการสำรวจหาข้อมูลเพิ่มเติมผลการสำรวจปรากฏรายงาน ตามหนังสืออุทยานแห่งชาติดงหินกอง ที่ กส 0708 (ดก) /57 ลงวันที่ 28 สิงหาคม 2524 ว่า “ พื้นที่บริเวณที่ภาควิชามนุษยวิทยา มหาวิทยาลัยศิลปากรเสนอขอให้จัดตั้งเป็นอุทยานแห่งชาติ อยู่ในบริเวณพื้นที่ป่าภูผาปรากฏภาพเขียนสีโบราณ ซึ่งมีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ที่ผาแต้ม สภาพป่าบริเวณใกล้เคียงยังไม่ถูกทำลาย และมีจุดเด่นตามธรรมชาติที่สวยงาม การคมนาคมสะดวกเหมาะที่ตั้งอุทยานแห่งชาติ โดยเห็นควรผนวกบริเวณดังกล่าวเข้าเป็นส่วนหนึ่งของ อุทยานแห่งชาติดงหินกอง ”กรมป่าไม้ จึงมีคำสั่งกรมป่าไม้ ที่ 1162/2524 ลงวันที่ 13 กันยายน 2524 ให้นายเสงี่ยม จันทร์แจ่ม นักวิชาการป่าไม้ 4 หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งตะนะ (อุทยานแห่งชาติดงหินกองเดิม) ไปดำเนินการควบคุมดูแลรักษาป่าภูผาโดยให้พิจารณาผนวกเข้ากับ อุทยานแห่งชาติแก่งตะนะ ทั้งนี้บริเวณภูผาดังกล่าวได้ถูกประกาศรวม กับบริเวณป่าใกล้เคียง ให้เป็นป่าสงวนแห่งชาติดงภูโหล่นตามกฎกระทรวงฉบับที่ 603 (พ.ศ.2516) ลงวันที่ 24 ตุลาคม 2526 ต่อมากรมป่าไม้ ได้พิจารณาเห็นว่าพื้นที่บริเวณดังกล่าวเป็นพื้นที่คนละส่วน และอยู่ห่างไกลกับอุทยานแห่งชาติแก่งตะนะ ตลอดจนมีอาณาเขตกว้างขวาง เกรงว่าอุทยานแห่งชาติแก่งตะนะ จะดูแลไม่ทั่วถึง และเพื่อเป็นการสนับสนุนนโยบายของรัฐบาลตาม โครงการอีสานเขียว และกระทรวงเกษตร และสหกรณ์ ในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและป่าไม้ เพื่อพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว และการศึกษาหาความรู้ทางวิชาการ จึงมีคำสั่งกรมป่าไม้ ที่ 991/2532 ลงวันที่ 28 มิถุนายน 2532 ให้ นายวรพล รัตนสุวรรณ นักวิชาการป่าไม้ 5 กองอุทยานแห่งชาติ ไปดำเนินการสำรวจเพื่อจัดตั้งพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าดงภูโหล่นท้องที่ อำเภอโขงเจียม อำเภอศรีเมืองใหม่ และอำเภอโพธิ์ไทร จังหวัดอุบลราชธานี เนื้อที่ 340 ตารางกิโลเมตร หรือ 212,500 ไร่ เป็นอุทยานแห่งชาติผาแต้ม และทำหน้าที่หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแห่งนี้ด้วย กรมป่าไม้โดยกองอุทยานแห่งชาติได้นำเรื่องราวดังกล่าวนี้ เสนอต่อคณะกรรมการอุทยานแห่งชาติ ซึ่งได้มติเห็นชอบในการประชุมครั้งที่ 3/2432 เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2532 ผ่านมติเห็นชอบของคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2534 และได้รับประกาศในราชกิจจานุเบกษา ฉบับพิเศษหน้า 90 – 92 เล่มที่ 108 ตอนที่ 245 ลงวันที่ 31 ธันวาคม 2534 ให้เป็นอุทยานแห่งชาติผาแต้มเป็นอุทยานแห่งชาติ ตามพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2504 นับเป็นอุทยานแห่งชาติลำดับที่ 74 ของประเทศไทย ต่อมาได้มีคำสั่งกรมป่าไม้ ให้นายศักดิ์สิทธิ์ พลทรัพย์ศิริ เจ้าหน้าที่บริหารงานป่าไม้ 7 ทำหน้าที่หัวหน้าอุทยานฯ คนที่ 2 ปัจจุบันมีคำสั่งให้นายอุทัย พรมนารี นักวิชาการป่าไม้ 7 ว ทำหน้าที่หัวหน้าอุทยานแห่งชาติผาแต้ม

สำหรับเเม่น้อยกว่านี้ได้ยังไง

การที่เราเป็น "ฅน" มาไำด้ทุกวันนี้ เริ่มต้นจากแม่...แม่ คือผู้ให้...ให้ทุกสิ่งทุกอย่าง ทั้งชีวิต สติปัญญา ความรัก กำลังใจ การศึกษา การดำรงชีวิตในการเป็นแบบอย่างที่ดี.....ลูกขอนำแบบอย่างของแม่มาปฏิบัติ เพื่อเป็นตัวอย่างของลูก และศิษย์ต่อไป....โรงเรียน (อาเวมารีอา) หนูถือว่าเป็นแม่แห่งการเรียนรู้ของหนูเอง เพราะหนูเริ่ม (การศึกษา) เรียน ม 2 ที่นี่ จนจบชั้นสูงสุด (ขณะนั้น คือ ม 5.) วันนี้หนูกลับมาในอีกสถานะหนึ่งคือครูผู้สอน ผมรู้สึกดีใจมากเหมือนได้กลับมาที่บ้านของตนเอง...และสัญญาว่าจะนำความรู้ความสามารถที่มีอยู่ช่วยพัฒนาบ้า่นของเราให้ดีที่สุดค่ะ.....

เเนะนำตัว

ชื่อนางสาวศศธร ขันธวัต ชื่อเล่น ปุ๋ย

ตอนนี้เรียนอยู่โรงเรียนอาเวมารีอา

ชั้นมัธยมศึกษาปีที่5/3 เลขที่ 18

ครูผู้สอนคุณครูวีระชน ไพสาทย์